เรียนภาษาอังกฤษเมื่อไรดีนะ???



早期英語教育???




สวัสดีค่ะะะ !! เผอิญวันนี้ทำการบ้านส่งอาจารย์เกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กของคนญี่ปุ่น หรือ 早期英語教育 เลยได้ไปค้นคว้าข้อมูลที่น่าสนใจจากหลาย ๆ แหล่งจึงอยากนำมาแบ่งปัน (ก่อนจะลืม) ค่ะ แหะ

คิดว่าบล็อกนี้คงไม่ยาวมากแต่อยากแชร์ความรู้แบบน่ารักใส ๆ หัวใจกุ๊กกิ๊กค่ะ /ปาหัวใจ





ก่อนอื่นขอปาคำถามเปิดประเด็นก่อน

คิดว่าเด็กควรเริ่มเรียนภาษาที่อังกฤษหรือภาษาที่สองตอนไหนเอ่ย?

ก. ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กตะมุตะมิ
ข. ค่อยเรียนหลังภาษาแม่แข็งแรงแล้ว



คำตอบที่ถูกก็คือ......

......ไม่กล้าฟังธงหรอกค่ะ แง ;-;


อะ ๆ อย่าเพิ่งปิดหนี จากนี้จะนำเสนอข้อมูลให้ทุกคนได้ช่วยกันพิจารณาค่ะ ก่อนอื่นเราขอเลือกฝั่งก่อนเนอะ เราตอบข้อ ก. เรียนตั้งแต่เป็นเด็กเล็กตะมุตะมิ ค่ะ




ทำไมน่ะเหรอ?



อ้างอิงจาก TED ของ Patricia Kuhl เธอบอกว่าเด็กมีความสามารถในการเรียนรู้เสียงของภาษาต่างประเทศตอนอายุ 6 เดือนค่ะ 

(https://www.ted.com/talks/patricia_kuhl_the_linguistic_genius_of_babies)


จริง ๆ ตอนเบบี๋เกิดมาเขายังแยกไม่ออกนะคะว่าอะไรคือ ภาษาแม่ อะไรคือ ภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่สองต่าง ๆ ......แต่เราถ้าเกิดมาแล้วเข้าใจภาษาเลยเหมือนนิยายทะลุมิติก็น่าจะดีนะ แหะ

อะแฮ่ม เพราะยังแยกไม่ออกเนี่ยแหละ เหล่าเบบี๋จึงมีความสามารถในการแยะแยกเสียงต่าง ๆ แต่เมื่อเบบี๋ฟังเสียงพูดของปะป๊า มะม๊า หรือคนรอบข้างเรื่อย ๆ ความสามารถทางการจำแนกนี้จะลดลงและหนูน้อยจะแยกเสียงภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาแม่ไม่ได้ค่ะ (อุแง)

เช่น ๆๆ อ้างอิงจากเว็บไซต์ญีปุ่น gentosha-go ในภาษาญี่ปุ่นจะมีเสียง 「ア」(อะ) แต่ในภาษาอังกฤษก็มีเสียง a ที่ออกว่า อะ เหมือนกัน อ้าว เบบี๋ทำไงล่ะทีนี้ คำตอบคือเมื่อเลยช่วง 6  เดือนอย่างที่บอกไป เสียง a จะถูกเสียง「ア」(อะ) ที่เป็นภาษาแม่หรือก็คือภาษาญี่ปุ่นของเบบี๋กลืน ดังนั้น พอโตขึ้นเบบี๋จะออกเสียง「ア」และ a เหมือนกัน ......เอ๊ะ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ออกเสียงภาษาที่สองไม่ชัดด้วยรึเปล่า น่าคิด ๆ 

ดังนั้น ๆ ถ้าตอนเด็กเบบี๋ไม่เคยสัมผัสภาษาอังกฤษเลย เบบี๋ก็จะฟังและจับใจความสิ่งที่ได้ยินเป็นภาษาอังกฤษได้ยาก 

ภาษาญี่ปุ่นเรียกสิ่งนี้ว่า 英語耳 หมายถึงความสามารถในการฟัง (และแยกแยะ) ภาษาอังกฤษ

ด้วยเหตุนี้ ปะป๊ากับมะม๊าทั้งหลายควรสร้าง 英語耳 ในช่วงที่เบบี๋อายุ 1-2 ปี ไม่อย่างนั้นเบบี๋จะจดจำภาษาอังกฤษในฐานะเสียงที่ไม่คุ้นชินและอาจทำให้การเรียนภาษาอังกฤษยากขึ้นด้วยค่ะ



พูดถึงส่วนที่ควรเรียนตั้งแต่ตะเล็กตะน้อยกันแล้ว ต่อไปจะเขียนคร่าว ๆ ถึงข้อเสียของการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กของคนญี่ปุ่นบ้างนะคะ



แน่นอนว่าพอเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เป็นเบบี๋ พอโตขึ้นอาจทำให้

1. identity หรือความเป็นตัวตนของญี่ปุ่นหายไป เช่นไม่เข้าใจวัฒนธรรมต่าง ๆ

2. เมื่อหนูน้อยออกจากโรงเรียนอินเตอร์ไปเข้าโรงเรียนรัฐก็อาจมีปัญหาเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตประจำวันแบบญี่ปุ่น



จากที่กล่าวไป จะเห็นว่าเด็กจะมีปัญหาการใช้ชีวิตและการเข้ากับสังคม  มันก็น่าห่วงนะ พอลองคิด ๆ เรามองว่าเวลาเรียนภาษา ผู้เรียนจะได้รับอิทธิพลทางความคิดจากวัฒนธรรมของภาษานั้น ๆ มาด้วย เช่น เราเรียนญี่ปุ่น เวลามีคนทำอะไรให้ เราจะใช้คำว่า すみません ที่แปลว่าขอโทษ แทนคำว่า ありがとう ที่หมายถึง การขอบคุณ เคยถามเซนเซย์สมัยมัธยม เขาบอกว่าเวลาคนทำอะไรให้เรา คนญี่ปุ่นจะมีความรู้สึกประมาณว่าเกรงใจที่คนอื่นต้องลำบากเพราะตัวเอง จึงพูดว่าขอโทษแทนขอบคุณ


......เป็นความแตกต่างทางวัฒนธรรมเนอะ


ดังนั้น คนญี่ปุ่นบางคนจึงอาจจะมองว่าการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กจะทำให้เด็กมีปัญหาเรื่องเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับระบบความคิดหรือวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นเมื่อโตขึ้น

แต่ ๆๆๆๆ อย่าเพิ่งด่วนสรุป เพราะอาจมีเหตุผลนอกเหนือจากนี้ก็เป็นได้ มาแชร์กันค่ะ



สรุปสักหน่อย


การเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กก็มีข้อดี ข้อเสีย ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะมองยังไง แต่ถ้าหากอยากให้เด็กสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี เราคิดว่าการเรียนตั้งแต่ยังเด็กตะเล็กจะช่วยให้เข้าใจภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ





ref.

https://cgk.ac/smart/blog/entry/english-learning-for-kids/#2

https://gentosha-go.com/articles/-/23017

ความคิดเห็น

  1. การจะเลี้ยงเด็กสองภาษาให้มีความ Balanced bilingual ยากจริงๆ แต่ถ้าพ่อแม่สามารถสร้างสมดุลของการใช้ภาษาได้ดีๆก็น่าจะทำได้น้า

    ตอบลบ
  2. เห็นด้วยกับพี่จุ๊บแจงว่าทุกอย่างต้องมีความสมดุล รวมถึงการเลี้ยงเบบี๋ให้มีความ efficient bilingual/multilingual ด้วย บล็อกเขียนแล้วอ่านง่าย มีรูปภาพกั้นแบบน่ารักกรุบกริบ โดยรวมถือว่าน่ารักมากค่า

    ตอบลบ
  3. Older is faster. "Younger is better." จริงๆนะคะ

    ตอบลบ
  4. โห ไอ่เราก็คิดแต่ว่าเรียนเร็วยังไงก็คงดีกว่า ไม่เคยนึกถึงข้อเสียตรงนั้นเลยค่ะ แต่ยังไงเราก็รู้สึกว่าเรียนเร็วมันดีกว่าอยู่ดีจริง ๆ ค่ะ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม